แผ่นดินไหว เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งสามารถส่งผลกระทบร้ายแรงต่อชีวิตและทรัพย์สินของมนุษย์ หลายครั้งแผ่นดินไหวก่อให้เกิดความเสียหายอย่างหนักต่ออาคาร โครงสร้างพื้นฐาน และอาจนำไปสู่ภัยพิบัติอื่น ๆ เช่น สึนามิหรือดินถล่ม แต่แผ่นดินไหวเกิดขึ้นได้อย่างไร? ทำไมถึงสร้างความเสียหายได้รุนแรงขนาดนี้ วันนี้เราจะไปหาคำตอบกันครับ สาเหตุหลักของแผ่นดินไหว แผ่นดินไหวเกิดจากพลังงานที่สะสมอยู่ภายในโลกถูกปลดปล่อยออกมาอย่างกะทันหัน ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นตามรอยเลื่อนของเปลือกโลก โดยมีปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหวดังต่อไปนี้ การเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก โลกของเราถูกแบ่งออกเป็นแผ่นเปลือกโลกหลายแผ่นที่เรียกว่า “แผ่นธรณีภาค” (Tectonic Plates) แผ่นเปลือกโลกเหล่านี้ลอยอยู่บนชั้นเนื้อโลก (Mantle) ซึ่งเป็นของไหลที่เคลื่อนที่ช้า ๆ ตามกระแสพาความร้อน (Convection Currents) การเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลกมีผลให้เกิดแรงกดดันและความเครียดสะสมจนทำให้เกิดแผ่นดินไหวขึ้นเมื่อแรงเครียดมีมากเกินไปและหินเปลือกโลกเกิดการแตกตัว การเคลื่อนที่ตามรอยเลื่อน (Faults) รอยเลื่อนคือแนวรอยแยกในเปลือกโลกที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก เมื่อลักษณะของการเคลื่อนที่แตกต่างกัน สามารถแบ่งรอยเลื่อนออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ รอยเลื่อนตามแนวปกติ (Normal Faults): เกิดจากแรงดึงที่ทำให้เปลือกโลกส่วนหนึ่งเคลื่อนลง รอยเลื่อนย้อน (Reverse Faults): เกิดจากแรงกดที่ทำให้เปลือกโลกส่วนหนึ่งเคลื่อนขึ้น รอยเลื่อนตามแนวนอน (Strike-slip Faults): เกิดจากแรงเฉือนที่ทำให้เปลือกโลกเคลื่อนที่ไปด้านข้าง กิจกรรมภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินไหวที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟมักเกิดขึ้นในบริเวณที่มีการเคลื่อนตัวของแมกมาใต้พื้นผิวโลก แรงดันของก๊าซและแมกมาที่สะสมอยู่อาจทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงได้ การเกิดแผ่นดินไหวจากกิจกรรมมนุษย์ มนุษย์สามารถก่อให้เกิดแผ่นดินไหวจากกิจกรรมบางอย่าง เช่น การทำเหมือง การสร้างเขื่อนเก็บน้ำขนาดใหญ่ และการฉีดของเหลวเข้าสู่ชั้นหินใต้ดิน (Hydraulic Fracturing…